ที่มาของนินจา
คำว่านินจาเชื่อว่ามีการใช้มาประมาณ 800 ปีก่อน ซึ่งหมายถึงบุคคลที่อยู่ในภูเขาและฝึกฝนนินจุตสุ (วิชาต่อสู้เกี่ยวกับการขโมยและการล่องหน) ซึ่งมาจากประโยคที่ว่า ชิโนบิโนะโมโนะ โดยเขียนในคันจิว่า 忍者 โดยตัวอักษรแรก 忍 (นิน) หมายถึง "คงทน" โดยในภายหลังคำนี้ได้มีความหมายเพิ่มเติมหมายถึง "การซ่อนตัว" และ "การขโมย" โดยตัวอักษรที่สอง 者 (จา) หมายถึง "บุคคล" นอกจากนี้ได้มีภาษาจีนได้กล่าวถึงนินจาว่า 林鬼 (หลินกุ้ย) ซึ่งหมายถึง ปีศาจในป่า
อาวุธนินจา
อาวุธของนินจามีลักษณะเป็นอาวุธที่ซ่อนไว้ รวมถึง ชูริเคน (ดาวกระจาย) โบะ (กระบอง) นินจาเคน (ดาบนินจาซึ่งเล็กกว่าคะตานะ (ของซามูไร) แต่ใหญ่กว่าวากิซาชิ )
...........................................................................
ขบวนการนินจาก kakurenger
ขบวนการนินจาก คาคุเรนเจอร์(Ninja Sentai Kakuranger ) ฉายที่ญี่ปุ่นTVAsahi เมื่อวันที่18กุมภาพันธ์ ปี 1994 จบวันที่24 กุมภาพันธ์ ปี 1995ฉายบ้านเราทางช่อง 3 ตอนเช้า (เช้ามากๆ) ประมาณ 6โมงเช้าได้
เป็นขบวนการ ที่ มีรูปแบบเป็น นินจา ขบวนการแรก และในปี 1995 ก็มีการสร้างภาค พิเศษ เป็น movie โดย เป็น การ รวมสอง ขบวนการ(ครอสโอเวอร์) คือ คาคุเรนเจอร์ และ โอเรนเจอร์ (หลังจากที่ ไม่ได้ ทำในรูปแบบ ครอสโอเวอร์ มานาน ตั้งแต่สมัย ที่ยัง มีการ ครอสโอเวอร์ ขบวนการ โกเรนเจอร์ และแจ๊กเกอร์ เมื่อ ปี 1977 โดย คาคุเรนเจอร์ มีทั้งหมด 53 ตอน และ (เป็น ขบวนการ ลำดับที่ สาม ที่มีตอนมากที่สุด รองจาก โกเรนเจอร์ ที่มี 84 ตอน และ เชนจ์แมน ที่มี 55 ตอน) มีภาคพิเศษ 3ภาค ได้แก่ 1.Ninja Task Force Kakuranger ฉาย 16 เมษายน 19942. Super Sentai World เป้น ภาพยนต์ 3มิติ ฉาย 29 เมษายน 19943.คาคุเรนเจอร์ ปะทะ โอเรนเจอร์ ฉาย 8 มีนาคม 1996
เรื่องราวของ คาคุเรนเจอร์ มีอยู่ ว่า เมื่อ 400 ปีก่อน เหล่า นินจาและเทพผู้พิทักษ์ ได้ต่อ สู้กับ จอมปีศาจ โยไค และสมุนปีศาจ และสามารถจับพวกมันผนึคไว้ ในถ้าที่มีประตู ปิดไว้ ไม่ให้ พวกปีศาจออกมา ได้ ต่อมายุคปัจุบัน ซาซูเกะ และไซโซ โดน หลอกให้ เปิดประตูที่กักขังปีศาจเมื่อ 400 ปี ก่อน ออกโดนบังเอิญ ซูรุฮิเมะ และ โมโมชิซันไดยู ปรามาจารย์วิชานินจา จึง ต้องรวบรวม บุคคล ซึ่งเป็นลูกหลาน เหล่า นินจาธรรมะ ในอดีต มาเป็น คาคุเรนเจอร์ เพื่อต่อสู้กับ ปีศาจ เมื่อ 400ปีก่อน โดยใน ตอนที่ จอมปีศาจไดมาโอและสมุน หลุดออกมาจากการผนึค ซูรุฮิเมะก็ต้อง เสีย พ่อของเธอไป โดย ภายหลังจึงรู้ว่าพ่อเธอไปรับใช้ จอมมารไดมาโอ
สมาชิกทีม
คลิปเพลงเปิดตัว คาคุเรนเจอร์
เนื้อเพลง
Kakurenjaa, ninja ninja
Raito appu no buriiji wa
Ijigen yuki no daiyamondo adobenchaa
Kotchi to atchi no misuterii
Tsunagete misete yo shiikuretto Kakurenjaa
Yuugure, yatto ano koto ii kanji
Sono toki, shuwa-tto kaze ga kire
Buttobu, futari no aida surinukete
Burakku hooru ni, kieta yatsu ga iru
**Are wa, nan nanja, nanja, nanja
Nin ninja, ninja, ninja
Kakurenja, ninja, ninja
Ninja Sentai Kakurenjaa
Metoro rain no tonneru ni
Kage ga odotte sairento sutorenjaa
Machi ni chirabaru sutoorii
Sagashite misete yo shiikuretto Kakurenjaa
Oshiete, ninja shinobi no oku no te o
Kawarimi, wakemi ni inmusubi
Ano kono, kokoro no arika saguru tame
Kikime ga attara, kobun ni naru kara sa
**Dakara, nan nanja, nanja, nanja
Nin ninja, ninja, ninja
Kakurenja, ninja, ninja
Ninja sentai Kakurenjaa
**Are wa, nan nanja, nanja, nanja
Nin ninja, ninja, ninja
Kakurenja, ninja, ninja
**Dakara, nan nanja, nanja, nanja
Nin ninja, ninja, ninja
Kakurenja, ninja, ninja
Ninja Sentai Kakurenjaa
เพลงปิด
SEVEN STAR TOUJIN GUYFERDไกเฟริด์ อัศวินเกราะ 7 ดาว
อัศวินเกราะ 7 ดาว ไกเฟริด์ ฉายเมื่อปี 1996 โดย แคปคอม โตโฮSTORYเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชายหนุ่มที่ชื่อ คาซามะ โก เขาเป็นยอดฝีมือ คาราเต้ชำชองการต่อสู้มาก และออกตามหาพี่ชายที่หายไป จนได้มาพบกับองกร คลาวด์ ซึ่งกำลังศึกษาสารเคมีชนิดใหม่ที่ชื่อว่า " ฟาร่า " ซึ่งถ้าคนถูกใส่สิ่งนี้ลงไปแล้วจะทำให้กลายเป็นสัตว์ประหลาดซึ่งในเรื่องนี้ผู้ที่ถูกใส่ฟาร่าก็มักที่จะเป็นเจ้าสำนักวิชาการต่อสู้แขนงต่างๆ กับไซบอร์ก " ไกบอร์ก "ซึ่งโกได้ถูกดัดแปลงเป็นไซบอร์กและถูกใส่ฟาร่าเข้าไปในตัว ทำให้เขากลายเป็นสุดยอดนักสู้ " ไกเฟิรด์ " และได้สู้กับ คลาวด์เรื่อยมาจนกระทั่งได้พบกับพี่ชายของเขาแต่หารู้ไม่ว่าพี่ชายเขาเองก็ถูกดัดแปลงเช่นกันจนกลายเป็น " เดสเฟริด์ " และได้ต่อสู้กันแต่ก็ไม่สามารถสู้โกได้ทำให้องการคลาวด์ล่มสลายไป แต่ต่อมามีองการใหม่เกิดขึ้น ( อันนี้ผมจำชื่อไม่ได้จริงๆครับ ) โกได้พบพี่ชายของเขาอีกครั้งและได้ต่อสู้ร่วมกันจนทำให้โลกพบกับสันติสุขในที่สุดแต่ทั้ง 2 ก็ได้หายตัวไปจากการต่อสู้ครั้งนั้นเอง....
เพลงปิด
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น